ตุรกีประกาศระงับส่งออกสินค้าบางประเทศให้อิสราเอล หากยังไม่บรรลุข้อตกลงหยุดยิงในกาซา และประณามการรุกรานพื้นที่กาซาของอิสราเอล

กระทรวงพาณิชย์ตุรกีรายงานวันนี้ว่า เตรียมระงับส่งออกสินค้าหลายประเภทให้กับอิสราเอล รวมถึงเหล็กและเชื้อเพลิงเครื่องบิน จนกว่าจะมีประกาศหยุดยิงในกาซา ถือเป็นมาตรการสำคัญตัวแรกของรัฐบาลอังการาที่ต่อต้านอิสราเอลหลังเกิดสงครามในกาซามานาน 6 เดือน

นอกจากนี้ตุรกียังได้ออกมาประณามนโยบายรุกพื้นที่กาซาของอิสราเอล และเรียกร้องให้มีการหยุดยิงในทันที

แถลงการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากรัฐบาลอังการาประกาศเตรียมใช้มาตรการบางอย่าง หลังอิสราเอลปฏิเสธคำขอตุรกีที่ต้องการมีส่วนร่วมในการให้ความช่วยเหลือทางอากาศในกาซา และการระงับส่งออกสินค้าบางประเภท มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

ตามรายงานระบุว่า มาตรการดังกล่าวอาจนำไปสู่การระงับส่งออกสินค้า 54 ประเภท รวมทั้งเหล็ก,หินอ่อน, เหล็กกล้า, ซีเมนต์, อลูมิเนียม, อิฐ, ปุ๋ย, อุปกรณ์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง, เชื้อเพลิงเครื่องบิน และอื่น ๆ

ตามข้อมูลของสภาผู้ส่งออกตุรกี (ทีไอเอ็ม) ระบุว่า ขณะที่การค้ากับอิสราเอลลดลงนับตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค. 2566 การส่งออกไปยังอิสราเอลกลับเพิ่มขึ้นในแต่ละเดือนตั้งแต่ต้นปีนี้ และมีมูลค่าการค้าในเดือน มี.ค. ที่ 423.2 ล้านดอลลาร์

โดยยอดการส่งออกทั้งหมดในไตรมาสแรกของปี 2567 อยู่ที่ 1.1 พันล้านดอลลาร์ ลดลงจากปีก่อน 21.6%

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลอังการายังคงรักษาความสัมพันธ์ทางการค้ากับอิสราเอลอยู่ แม้มีวาทกรรมที่รุนแรงและก่อให้เกิดการโต้แย้งภายในประเทศ

เมื่อวันเสาร์ (6 เม.ย.) ที่ผ่านมา มีคนออกมาประท้วงในอิสตันบูล เรียกร้องให้รัฐบาลตุรกียุติการค้ากับอิสราเอล และเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถควบคุมตัวผู้ชุมนุมได้หลายสิบราย

เหตุการณ์ชุมนุมดังกล่าวทำให้เจ้าหน้าที่รัฐสงสัยว่ามีตำรวจ 2 นายเข้ามาเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ เนื่องจากรัฐบาลพยายามฟื้นความนิยมหลังพรรคฝ่ายค้านชนะการเลือกตั้งท้องถิ่นเมื่อวันที่ 31 มี.ค.

ทั้งนี้ ท่าทีของประธานาธิบดีเรจิป เทยิบ เออร์ดวน ของตุรกีและความขัดแย้งในกาซาเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้สมาชิกพรรคเสียคะแนนเสียง และพรรค Islamist New Welfare ก็ได้รับการสนับสนุนเพิ่มหลังจากมีจุดยืนที่แข็งกร้าวต่อสถานการณ์ในกาซามากขึ้น